Monday, January 25, 2010

สมุนไพรฟื้นฟูตับอ่อน

“มะตูมแห้ง รากเตยหอม” ฟื้นฟูตับอ่อน
ตับอ่อน ไม่ดีหรือเสียเป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้คนเป็นโรคเบาหวาน เพราะตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลีน ขับถ่ายของเสียได้ ดังนั้น การฟื้นฟูตับอ่อนให้กลับสู่ปกติ จึงจะทำให้โรคเบาหวานลดลงหรือดีขึ้นได้ ปัจจุบัน มีวิธีฟื้นฟูตับอ่อนหลายรูปแบบ เช่น กินอาหารเสริม ได้ผลดี แต่ราคาก็สูงอยู่ หรือ แม้กระทั่งคล้องเหรียญควบคุมระบบในร่างกาย ในทางสมุนไพรมีวิธีง่าย ๆ คือเอามะตูมแห้ง 30 กรัม กับรากเตยหอม 30 กรัม ต้มกับน้ำตามต้องการจนเดือดดื่มขณะอุ่น เช้า กลางวัน เย็น ครั้งละครึ่งแก้ ต้มกินประจำจะทำให้ตับอ่อนค่อย ๆ ดีขึ้น ทำให้โรคเบาหวานลดลงได้
มะตูมหรือ BAEL FRUITTREE BENGAL QUINSE AEGLE MARMELOS (L) CORR. อยู่ในวงศ์ RUTACEAE ตำรายาไทยระบุว่า ผลดิบแห้งชงน้ำชาดื่มแก้ท้องเสีย แก้บิด ผลสุกเป็นยาระบายช่วยย่อยอาหาร ใบสดคั้นน้ำกินแก้หลอดลมอักเสบ เปลือก รากและต้นรักษาไข้มาลาเรีย
เตยหอม หรือ PANDANUSODORUS อยู่ในวงศ์ PANDANACEAE สรรพคุณโบราณ เตยหอมมีรสเย็นหอม บำรุงหัวใจให้ชุ่มชื่น ซึ่งในการทำข้าวกระยาคู ที่ใช้ข้าวน้ำนมกับนมสด ต้องใส่ใบเตยหอมด้วย จะช่วยให้คนไข้รับประทานแล้วเกิดกำลัง ทำให้จิตใจผ่องใส ต้นและรากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ แก้กษัยน้ำเบาพิการได้ดีมาก

กระชาย-ตะไคร้-อัญชัน” บำรุงไต สายตา แก้เพลีย
สูตรดังกล่าวมีวิธีทำง่าย ๆ คือ เอากระชายสด 50 กรัม ตะไคร้สด 50 กรัม และดอกอัญชันสด 30 กรัม ต้มกับกับน้ำกะโดยสายตาจนเดือดแล้วดื่มขณะอุ่นทุกวัน วันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละครึ่งแก้ หรือดื่มแทนน้ำ ต้มดื่มติดต่อกัน 3-6 เดือน จะช่วยบำรุงไตสำหรับไตปกติให้แข็งแรง ไม่ใช่ดื่มเพื่อรักษาโรคไต บำรุงสายตาแก้ตาแห้ง บำรุงกำลังและแก้อาการอ่อนเพลีย ร่างกายกระชุมกระชวยดีมาก
กระชายหรือ BOESENBERGIA ROTUNDA LINN. อยู่ในวงศ์ ZINGIBERACEAE ประโยชน์ เหง้าและรากมีน้ำมันหอมระเหย เช่น CINEOL, BORNEOL ใช้แต่งกลิ่นอาหารและแก้บิด ตะไคร้ CYMBOPOGON CITRATU (NEES) STAPF. ชื่อสามัญ LEMON GRASS อยู่ในวงศ์ GRAMINAE ประโยชน์ ทั้งต้นเป็นเครื่องเทศ ทำเครื่องดื่ม เป็นยาขับปัสสาวะ ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ สาระสำคัญคือน้ำมันหอมระเหยซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยสาร CITRAL และ GERANIOL อัญชัน หรือ CLITORIA TERNATAE LINN. ชื่อสามัญ BLUE PEA, BUTTERFLY PEA อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE ประโยชน์ ดอกใช้แต่งสีขนม ใช้ทดสอบความเป็นกรด-ด่างแทนกระดาษ “ลิตมัส” น้ำคั้นจากดอกทาทำให้ผมขึ้นและคิ้วดก ซึ่งจะได้ผลดีในเด็ก

ล้วยตีบ ใบแก้คัน ริดสีดวงจมูก
สมัยก่อนจำได้ว่า “กล้วยตีบ” มีปลูกตามบ้านในชนบทมากมาย โดยปลูกแซมกับกล้วยชนิดต่าง ๆ แต่การปลูกกล้วยตีบในยุคนั้น ไม่ได้ปลูกเพื่อรับประทานผล จะปลูกติดสวนหรือปลูกติดบ้านไว้ใช้ประโยชน์ทางสมุนไพรเท่านั้น เนื่องจากรสชาติของผลสุกไม่อร่อยเหมือนกับกล้วยน้ำว้า หรือกล้วยหอมทั่วไป ผลมีขนาดเล็ก จึงนิยมปลูกไว้ทำยาอย่างเดียวตามที่กล่าวข้างต้น ซึ่งในปัจจุบันกล้วยตีบหายากมาก ส่วนใหญ่จะมีปลูกเฉพาะตามสวนสมุนไพรใหญ่ ๆ ไม่กี่แห่ง จึงอยากรณรงค์ให้ช่วยกันปลูกอนุรักษ์ก่อนที่กล้วยตีบจะสูญพันธุ์ไม่มีให้พบเห็นอีกในอนาคต
กล้วยตีบเชื่อว่าเป็นกล้วยตานีป่า เพราะลักษณะทุกอย่างเหมือนกันมาก จัดอยู่ในกลุ่มที่เป็นพันธุ์แท้ของกล้วยตานี หรือพันธุ์ที่ได้กลายพันธุ์ไปจากพันธุ์แท้ แต่ยังมีลักษณะพันธุ์แท้อยู่มาก อยู่ในวงศ์ MUSACEAE ลำต้นเทียมสูง 3-4 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 ซม. สีเขียวไม่มีปื้นดำ กาบลำต้นด้านในก็เป็นสีเขียว ก้านใบสีเขียว ก้านสั้นกว่าก้านใบกล้วยตานีเยอะ และมักไม่มีร่อง สีของใบมักจะเหลือง ใบสั้นและเล็กกว่าใบกล้วยตานี ที่สำคัญ กล้วยตีบจะดูคล้ายต้นกล้วยใกล้จะตาย จะบำรุงอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น จะดูเหมือนกับต้นกล้วยโทรม ๆ ตลอดเวลา
ก้านช่อดอก หรือเครือเป็นสีเขียว ไม่มีขน ใบประดับปลีค่อนข้างป้อมสั้น ปลายมน ด้านบนเป็นสีแดงอมม่วง มีนวล ด้านล่างสีแดงเข้มสดใน เมื่อใบประดับกางและจะม้วนงอ เครือหนึ่งจะมีหวีเพียง 1-2 หวีเท่านั้น แต่ละหวีจะมีผลประมาณ 7-8 ผล ไม่เกิน 10 ผล ผลสุกเป็นสีเหลือง เช่นเดียวกับผลกล้วยตานี แต่ขนาดของผลกล้วยตีบ จะเล็กกว่าเยอะ รสชาติฝาดปนเย็น ไม่นิยมรับประทาน ขยายพันธุ์ด้วยหน่อ พบขึ้นตามป่าธรรมชาติทั่วไป พบมากทางภาคเหนือ ภาคใต้และภาควันออกเฉียงเหนือ ใครต้องการต้นไปปลูก ลองติดต่อคุณแต้วผู้จำหน่ายพันธุ์กล้วยชนิดต่าง ๆ บริเวณโครงการ 5 ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับสวนจตุจักรทุกวันพุธ-พฤหัสบดีช่วยจัดหาให้ ราคาคงไม่แพงนัก เพราะขนาดหน่อกล้วยน้ำว้าสวนไส้แดงรสหวาน กล้วยหอมชนิดต่าง ๆ ยังแค่ต้นละ 30 บาทขึ้นไปไม่เกิน 50 หรือ 70 บาทเท่านั้น
ส่วนสรรพคุณทางยาของกล้วยตีบ ตำรายาโบราณเอารากต้มน้ำดื่มเป็นยาแก้ร้อนในกระหายน้ำ ใบสดกะจำนวนตามต้องการ ต้มน้ำอาบแก้ผื่นคันตามผิวหนังได้ หรือใบตากแห้ง มามวนยาสูบแก้ริดสีดวงจมูกเด็ดขาดมาก.



ที่มา : คอลัมน์เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ โดยนายเกษตร นสพ. ไทยรัฐ



ตับอ่อน ช่วงแรกเรียกว่า ท่อแพนครีเอติค ( pancreatic duct) ช่วงหลังเรียกว่าท่อจากตับอ่อน ( hepato pancreaticduct) หน้าที่ของตับอ่อนสรุปได้ดังนี้
มีต่อมสร้างน้ำย่อยหลายชนิดส่งให้ลำไส้เล็กทำหน้าที่ย่อย แป้ง โปรตีนและไขมัน
มีต่อมไร้ท่อควบคุมน้ำตาลในเลือด
สร้างสารที่เป็นด่างกระตุ้นให้น้ำย่อยในลำไส้เล็กทำงานได้ดี โดยเฉพาะเอนไซม์


เบาหวาน
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เบาหวาน(Diabetes mellitus)

เบาหวาน เป็นความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อันส่งผลทำให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกิน โรคนี้มีความรุนแรงสืบเนื่องมาจากการที่ร่างกายไม่สามารถใช้น้ำตาลได้อย่างเหมาะสม โดยปกติน้ำตาลจะเข้าสู่เซลล์ร่างกายเพื่อใช้เป็นพลังงานภายใต้การควบคุมของฮอร์โมนอินซูลิน ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจะไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลที่เกิดขึ้นทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ในระยะยาวจะมีผลในการทำลายหลอดเลือด ถ้าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจนำไปสู่สภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
ปี 2550 พบผู้ป่วยเบาหวานแล้วถึง 246 ล้านคน โดยผู้ป่วยเบาหวานทั่วโลก 4 ใน 5 เป็นชาวเอเชีย


ชนิดและสาเหตุ
เบาหวาน สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 เกิดจากภูมิต้านทานของร่างกายทำลายเซลล์ที่สร้างอินซูลินในตับอ่อน ทำให้ร่างกายหยุดการสร้างอินซูลิน ดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 1 จึงจำเป็นต้องฉีดอินซูลิน เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือดระยะยาว
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบชัดเจน แต่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม นอกจากนี้ ยังมีความสัมพันธ์กับภาวะน้ำหนักตัวมาก การขาดการออกกำลังกาย และวัยที่เพิ่มขึ้น เซลล์ของผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ยังคงมีการสร้างอินซูลิน แต่ทำงานไม่เป็นปกติเนื่องจากมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้เซลล์ที่สร้างอินซูลินค่อยๆถูกทำลายไป บางคนเริ่มมีภาวะแทรกซ้อนโดยไม่รู้ตัว และต้องการยาในการรับประทาน และบางรายต้องใช้อินซูลินชนิดฉีด เพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือด
อาการ
-ถ้าหากพบอาการดังต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์
-ปัสสาวะมากขึ้นและบ่อยครั้งขึ้น
-ปัสสาวะกลางคืนบ่อยขึ้น (ระหว่างช่วงเวลาที่เข้านอนแล้วจนถึงเวลาตื่นนอน)
-หิวน้ำบ่อยและดื่มน้ำในปริมาณที่มากๆ
-เหนื่อยง่ายไม่มีเรี่ยวแรง
-น้ำหนักตัวลดโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยเฉพาะถ้าหากน้ำหนักเคยมากมาก่อน
-ติดเชื้อบ่อยกว่าปกติ เช่น ติดเชื้อทางผิวหนังและกระเพาะอาหาร
-สายตาพร่ามองเห็นไม่ชัดเจน
-เป็นแผลหายช้า
โดย เบาหวานชนิดที่ 2 อาจจะมีอาการเหล่านี้บางอย่าง หรืออาจไม่มีอาการเหล่านี้เลย

อาการแทรกซ้อน
-ภาวะแทรกซ้อนทางสายตา (Diabetic retinopathy)
เกิดจากการที่น้ำตาลเข้าไปใน endothelium ของ หลอดเลือดเล็กๆ ในลูกตา ทำให้หลอดเลือดเหล่านี้มีการสร้างไกลโคโปรตีนซึ่งจะถูกขนย้ายออกมาเป็น Basement membrane มากขึ้น ทำให้ Basement membrane หนา แต่เปราะ หลอดเลือดเหล่านี้จะฉีกขาดได้ง่าย เลือดและสารบางอย่างที่อยู่ในเลือดจะรั่วออกมา และมีส่วนทำให้ Macula บวม ซึ่งจะทำให้เกิด Blurred vision หลอดเลือดที่ฉีกขาดจะสร้างแขนงของหลอดเลือดใหม่ออกมามากมายจนบดบังแสงที่มาตกกระทบยัง Retina ทำให้การมองเห็นของผู้ป่วยแย่ลง
-ภาวะแทรกซ้อนทางไต (Diabetic nephropathy)
พยาธิสภาพของหลอดเลือดเล็กๆ ที่ Glomeruli จะทำให้ Nephron ยอมให้ albumin รั่วออกไปกับ filtrate ได้ Proximal tubule จึงต้องรับภาระในการดูดกลับสารมากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นนานๆ ก็จะทำให้เกิด Renal failure ได้ ซึ่งผู้ป่วยมักจะเสียชีวิตภายใน 3 ปี นับจากแรกเริ่มมีอาการ
-ภาวะแทรกซ้อนทางระบบประสาท (Diabetic neuropathy)
หากหลอดเลือดเล็กๆ ที่มาเลี้ยงเส้นประสาทบริเวณปลายมือปลายเท้าเกิดพยาธิสภาพ ก็จะทำให้เส้นประสาทนั้นไม่สามารถนำความรู้สึกต่อไปได้ เมื่อผู้ป่วยมีแผล ผู้ป่วยก็จะไม่รู้ตัว และไม่ดูแลแผลดังกล่าว ประกอบกับเลือดผู้ป่วยมีน้ำตาลสูง จึงเป็นอาหารอย่างดีให้กับเหล่าเชื้อโรค และแล้วแผลก็จะเน่า และนำไปสู่ Amputation ในที่สุด
-โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary vascular disease)
-โรคหลอดเลือดสมอง (Cerebrovascular disease)
-โรคของหลอดเลือดส่วนปลาย (Peripheral vascular disease)
-แผลเรื้อรังจากเบาหวาน (Diabetic ulcer)

1 comment:

  1. Titanium Phone Case - Tithin Gathers for Men, Girls & Women
    The Titanium Phone Case titanium blue provides a titanium welding complete case design that includes a stylish titanium apple watch band design with all you want titanium rings from an award-winning gaggia titanium design.

    ReplyDelete